การเชื่อมต่อจาก EC2 (Windows Server) ไปยัง Postgres บน RDS และ Import ข้อมูลตัวอย่าง
สวัสดีครับ POP จากบริษัท Classmethod (Thailand) ครับ
pgAdmin 4 คืออะไร
pgAdmin เป็นเครื่องมือการจัดการสำหรับ PostgreSQL และฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เชิงอนุพันธ์ เช่น EnterpriseDB's EDB Advanced Server อาจเรียกใช้เป็นเว็บหรือแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป
OS ที่รองรับ pgAdmin
- Windows
- MacOS
- Linux
เป้าหมาย
ดำเนินการใน AWS Management Console
สร้าง EC2 (Windows Server) และสร้าง Amazon Aurora PostgreSQL
ดำเนินการใน Windows Server
Login เข้าไปที่ EC2 (Windows Server) แล้วติดตั้ง pgAdmin 4 แล้วเชื่อมต่อกับ Amazon Aurora PostgreSQL และ Import ข้อมูลไปยัง Amazon Aurora PostgreSQL
การดำเนินการในบทความนี้จะทำบน OS: Windows 11 (AWS Management Console) และบน Remote Desktop Connection (Windows Server)
- OS: Windows 11 (AWS Management Console)
- Remote Desktop Connection (Windows Server)
การสร้าง Microsoft Windows Server ใน Amazon EC2
ขั้นตอนนี้ดำเนินการใน Windows 11 (AWS Management Console)
ดูตัวอย่างการเริ่มต้น Windows Server ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ (แนะนำให้ดู ตัวอย่างตั้งค่าการสร้าง Microsoft Windows Server ใน EC2 ของบทความครั้งนี้ ประกอบด้วย)
ตัวอย่างตั้งค่าการสร้าง Microsoft Windows Server ใน EC2 ของบทความครั้งนี้
※Create Key pairs
Key pairs:tinnakorn-pg-win
(ตั้งชื่อที่ต้องการ)
Key pair type:RSA
Private key file format: ◉pem
※Launch instances
Name and tags
Name:tinnakorn-pg-win
(ตั้งชื่อที่ต้องการ)Application and OS Images (Amazon Machine Image)
Amazon Machine Image (AMI):Microsoft Windows Server 2022 Base
Instance type
Instance type:t3a.medium
Key pair (login)
Key pair name - required:tinnakorn-pg-win
(key pair ที่สร้างขึ้นเมื่อสักครู่นี้)Network settings
Firewall (security groups)
Security group name - required:tinnakorn-pg-win
(ตั้งชื่อที่ต้องการ)
Description - required:tinnakorn-pg-win
(ป้อนตามต้องการ)
Inbound security groups rules
Security group rule 1 (TCP, 3389, xxx.xxx.xxx.xxx/32)
Type:rdp
| Source type:My IP
| Source:xxx.xxx.xxx.xxx/32
Configure storage
1x:30
GiBgp2
Root volume (Default)
เชื่อมโยง Elastic IP (EIP)
Instance ที่ไม่มีการใช้งาน EIP นั้น หลังจาก Stop การใช้งานไปแล้ว และทำการ Start Instance นั้นอีกรอบ ตัวระบบจะเปลี่ยนแปลง IP ใหม่ทุกครั้งที่มีการ Start และ Stop Instance ดังนั้นจำเป็นต้องเชื่อมโยง EIP ให้กับ Instance เพื่อทำการล็อก IP แล้วการใช้งานหลังจากนั้น เมื่อทำการ Start และ Stop Instance ก็จะเป็น IP เดิมทุกครั้งที่เราใช้งาน
ดูวิธีการเชื่อมโยง Elastic IP (EIP) ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
แนะนำยังไม่ต้อง Login ไปยัง Windows Server ซึ่งจะอธิบายในภายหลัง !
ระหว่างรอ EC2 (Windows Server) เริ่มต้นระบบ ให้เริ่มสร้าง Amazon Aurora PostgreSQL เตรียมไว้ก่อนได้เลย
การสร้าง Amazon Aurora PostgreSQL
ขั้นตอนนี้ดำเนินการใน Windows 11 (AWS Management Console)
ตัวอย่างนี้ผมใช้ Aurora Serverless V1 (Amazon Aurora PostgreSQL) ซึ่งเราสามารถใช้ RDS ตามประเภทที่ต้องการหรือทำการติดตั้ง MySQL ใน Windows Server ก็ได้
ดูตัวอย่างการเริ่มต้น Aurora Serverless ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ (เนื่องจากลิงก์บทความด้านล่างนี้เป็นแค่ตัวอย่าง แนะนำให้ดู ตัวอย่างตั้งค่าการสร้าง Amazon Aurora PostgreSQL ของบทความครั้งนี้ ประกอบด้วย)
ตัวอย่างตั้งค่าการสร้าง Amazon Aurora PostgreSQL ของบทความครั้งนี้
※Create Security Group สำหรับ Amazon Aurora PostgreSQL
Basic details
Security group name:tinnakorn-pg-db
(ตั้งชื่อที่ต้องการ)
Description:tinnakorn-pg-db
(ป้อนตามต้องการ)Inbound rules
Type:PostgreSQL
| Source:Custom
|tinnakorn-pg-win
(พิมพ์ค้นหาชื่อ EC2 ที่จะใช้แล้วเลือก) → sg-ab12cd34xxxx※Create RDS Aurora
Engine options
Engine type:Amazon Aurora
Edition:Amazon Aurora PostgreSQL-Compatible Edition
Available versions:Aurora PostgreSQL (Compatible with PostgreSQL 11.13)
(ต้องใช้เวอร์ชัน "11.13" ในการเลือก Aurora PostgreSQL Serverless V1)Templates
◎ Production
Settings
DB instance identifier:tinnakorn-pg-db
Credentials Settings
Master username:postgres
(ระวังส่วนนี้ด้วย เนื่องจาก username จะเปลี่ยนไปตามที่เราเลือก Edition)
Master password:PassW0rd
(รหัสผ่านนี้เป็นแค่ตัวอย่าง ให้ตั้งรหัสผ่านที่ต้องการ)
Confirm password:PassW0rd
Instance configuration
DB instance class
◎ Serverless
Serverless v1 ▼
Capacity range
Minimum ACUs:2 ACU
(Aurora Postgres Serverless V1 ต้องใช้ ACU ตั้งแต่ 2 ขึ้นไปหรือมากกว่า)
Maximum ACUs:2 ACU
Additional scaling configuration
Autoscaling timeout and action:00:05:00
Pause after inactivity:✅ Scale the capacity to 0 ACUs when cluster is idle
00:05:00
Connectivity
Existing VPC security groups:tinnakorn-pg-db
(เลือก security group ที่เราสร้างสำหรับ Amazon Aurora PostgreSQL)
Additional configuration
Web Service Data API:✅ Data API
Login ไปยัง Windows Server
เหตุผลที่ต้องเชื่อมโยง EIP ก่อนก็เพราะว่าหลังจากที่เชื่อมโยง EIP เสร็จแล้ว Public IPv4 address (Public IP) ของ EC2 Instance จะเปลี่ยนไปเป็นอันเดียวกับ EIP และในตัวไฟล์ Remote Desktop ก็จะเป็น Public IP เดียวกับ EC2 Instance เสมอ ดังนั้นถ้าเราเชื่อมโยง EIP เราจะสามารถ Login เข้าไปยัง Windows Server ผ่านไฟล์ Remote Desktop ที่ดาวน์โหลดมาหลังจากเชื่อมโยง EIP ได้ตลอด ! แต่ถ้าไม่เชื่อมต่อ EIP ไว้ ทุกครั้งที่ Start EC2 Instance เราต้องดาวน์โหลดไฟล์ Remote Desktop ทุกครั้งเพื่อ Login เข้าไปยัง Windows Server
ดูตัวอย่างที่นี่เฉพาะหัวข้อนี้: การเชื่อมต่อกับ Instance เพื่อเข้าใช้งาน Windows ผ่านไฟล์ RDP (หากคลิกไปแล้วไม่ไปที่หัวข้อนี้ให้โดยอัตโนมัติ ให้คลิกที่หัวข้อนี้จากเมนูด้านซ้ายของบทความ)
การติดตั้ง pgAdmin 4
ขั้นตอนนี้ดำเนินการใน Remote Desktop Connection (Windows Server)
ดาวน์โหลด pgAdmin 4
ตัวอย่างนี้จะใช้เว็บเบราว์เซอร์ Edge ใน Windows Server เนื่องจากสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
คัดลอก URL ด้านล่างนี้ไปเปิดที่เว็บบราวเซอร์ใน Windows Server แล้วเลือก Windows
(เนื่องจากครั้งนี้จะติดตั้งใน OS Windows Server)
https://www.pgadmin.org/download/
เลือกเวอร์ชันใหม่ล่าสุด pgAdmin 4 v6.16 (released Nov. 19, 2022)
(เวอร์ชันมีการอัปเดตเรื่อยๆ)
คลิกดาวน์โหลด pgadmin4-6.16-x64.exe
ติดตั้ง pgAdmin 4
ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวติดตั้ง แล้วเลือก → Install for me only (recommended)
เลือก ◎ I accept the agreement
แล้วคลิกNext
เริ่มต้นโปรแกรม pgAdmin 4
เมื่อเข้าใช้งานครั้งแรก ต้องทำการ Set Master Password ก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้
กดปุ่ม Windows แล้วเลือกโฟลเดอร์ pgAdmin 4
แล้วคลิก pgAdmin 4 v6
แล้วรอโปรแกรมเริ่มต้นสักครู่
เมื่อเข้ามาที่โปรแกรม(ครั้งแรก)แล้ว จะแสดงหน้าจอโปรแกรมและ Popup Set Master Password แบบนี้ จากนั้นให้ทำการตั้งรหัสผ่านที่ต้องการ แล้วคลิก OK
ต่อไปให้รีสตาร์ทโปรแกรมเพื่อทดสอบการเข้ารหัสโดยปิดและเปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่ แล้วจะเห็นว่า Popup เปลี่ยนเป็น Unlock Saved Passwords ทีนี้ให้ป้อนรหัสผ่าน Master Password ที่ตั้งค่าจากขั้นตอนที่แล้ว และคลิก OK
เมื่อแสดงหน้าจอแบบนี้ถือว่าการ Set Master Password เสร็จสิ้น
การเชื่อมต่อ Database Amazon Aurora PostgreSQL
ขั้นตอนนี้ดำเนินการใน AWS Management Console
เข้าไปที่ Database Amazon Aurora PostgreSQL บน AWS Management Console ของเรา แล้วคัดลอก Endpoint เตรียมไว้
ขั้นตอนนี้ดำเนินการใน Remote Desktop Connection (Windows Server)
กลับมาที่ Windows Server แล้วคลิก Servers
จะเห็นว่ายังไม่มีอะไร เราต้องเชื่อมต่อกับ Database ก่อน
คลิกขวา Servers
เลือก Register
และเลือก Server...
ในแท็บ General ให้ตั้งชื่อ Server ที่ต้องการ (แนะนำให้ตั้งชื่อที่เข้าใจง่าย)
ตัวอย่างนี้จะตั้งชื่อเหมือนกับ Amazon Aurora MySQL คือ Name: tinnakorn-pg-db
เนื่องจากจำง่าย
ในแท็บ Connection มีการตั้งค่าดังนี้
Host name/address: ป้อน Endpoint ของ Amazon Aurora PostgreSQL ที่คัดลอกมาเมื่อสักครู่นี้
Username: postgres
(ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในขณะที่สร้าง Aurora PostgreSQL ก็จะเป็น Username ค่าเริ่มต้นแบบนี้)
Password: PassW0rd
ป้อน Password ของ Amazon Aurora PostgreSQL
คลิก Save
แล้วรอการเชื่อมต่อกับ Amazon Aurora PostgreSQL สักครู่
ถ้าเกิด Error แบบนี้ ให้ป้อน Password ของ Amazon Aurora PostgreSQL ใหม่อีกครั้ง แล้วคลิก Save
อีกครั้ง (เนื่องจาก Amazon Aurora PostgreSQL หยุดทำงานตามเวลาที่ตั้งค่าไว้ใน Additional scaling configuration)
เมื่อแสดงหน้าจอแบบนี้ ถือว่าการเชื่อมต่อกับ Amazon Aurora PostgreSQL สำเร็จ
เมื่อลองคลิกดูข้อมูลข้างในแล้ว จะเห็นข้อมูลเริ่มต้นของ postgres ใน Databases
การ Import ข้อมูลจาก EC2 (Windows Server) ไปยัง Amazon Aurora PostgreSQL
ขั้นตอนนี้ดำเนินการใน Remote Desktop Connection (Windows Server)
Download the PostgreSQL sample database
คัดลอก URL ด้านล่างนี้ไปเปิดที่เว็บบราวเซอร์ใน Windows Server แล้วเลื่องลงมาด้านล่างที่หัวข้อ Download the PostgreSQL sample database แล้วคลิกดาวน์โหลดที่ Download DVD Rental Sample Database
https://www.postgresqltutorial.com/postgresql-sample-database/
แล้วให้แตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา (ในตัวอย่างนี้แตกไฟล์ไว้ที่หน้า Desktop)
Import ข้อมูลไปยัง Amazon Aurora PostgreSQL
ก่อนอื่นให้สร้าง Database ก่อน โดยคลิกที่ Server ของเรา แล้วคลิกขวาที่ Databases
แล้วเลือก Create
และคลิก Database...
ป้อนชื่อ Database ที่ต้องการ เช่น tinnakorn
แล้วคลิก Save
เมื่อเสร็จแล้วเราก็จะได้ Database ที่เป็นของเรา จากนั้นให้คลิกขวาที่ Database ของเรา ตัวอย่างนี้คือ tinnakorn
แล้วเลือก Restore...
คลิกไอคอนโฟลเดอร์ที่ Filename แล้วเพิ่มไฟล์ที่แตกออกมาเมื่อสักครู่นี้ ไฟล์ตัวอย่างนี้คือ dvdrental.tar
แล้วคลิก Restore
เมื่อการ Import เสร็จแล้ว จะแสดงการแจ้งเตือน "Process completed" แบบนี้
ตรวจสอบข้อมูลที่ Import เสร็จแล้ว
คลิกเข้าไปที่ Table ตาม path นี้ tinnakorn (Database ของเรา)
> Schemas
> Tables
คลิกขวา Table ที่ต้องการตรวจสอบ เช่น actor
แล้วเลือก View/Edit Data
> First 100 Rows
เมื่อแสดงหน้าจอแบบนี้ถือว่าการ Import ข้อมูลสำเร็จ
สรุป
ผมได้ทำการติดตั้งโปรแกรม pgAdmin 4 ลงใน EC2 (Windows Server) แล้ว Import ข้อมูลตัวอย่างไปยัง Amazon Aurora PostgreSQL ซึ่งผมคิดว่าเป็นช่องทางที่สามารถสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฐานข้อมูลใหม่ การนำเข้าข้อมูล การแสดงข้อมูล การแก้ไขข้อมูล ก็สามารถทำได้โดยการคลิกเพียงแค่ไม่กี่คลิก
ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้นะครับ
POP จากบริษัท Classmethod (Thailand) ครับ !